วันพุธที่ 17 กันยายน 2567
นางสาวพินยุดา แจ่มจันทร์ศรี แรงงานจังหวัดสมุทรสาคร มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร บูรณาการร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร และกอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าว ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ดังนี้
นางสาวพินยุดา แจ่มจันทร์ศรี แรงงานจังหวัดสมุทรสาคร มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร บูรณาการร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร และกอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าว ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ดังนี้
ร้านที่ 1. ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ พบแรงงานต่างด้าวกระทำความผิด 1 ราย กำลังทำงานขายของหน้าร้านเพียงลำพังไม่มีนายจ้างอยู่ภายในร้าน จึงขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและเอกสารการได้รับอนุญาตทำงาน พบว่ามีหนังสือเดินทางมาแสดง อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อนุญาตให้ทำงานในตำแหน่งกรรมกร การกระทำดังกล่าวเป็นการทำงานในลักษณะขายของหน้าร้านเป็นงานห้ามคนต่างด้าวทำ โดยมีเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงแรงงานเรื่องกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้”ตามมาตรา 8แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561
ร้านที่ 2. ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ พบแรงงานกระทำความผิด 1 ราย กำลังทำงานขายของหน้าร้าน (จำหน่ายโทรศัพท์มือถือ) จึงขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและเอกสารการได้รับอนุญาตทำงานพบว่า อนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 จากการตรวจสอบพบว่าชื่อนายจ้างที่ระบุในใบอนุญาตทำงานไม่ตรงกับชื่อนายจ้าง/สถานประกอบการที่เข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบประวัติการแจ้งเข้า – ออกทำงานผ่านระบบการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว พบนายจ้างเดิมได้แจ้งออกจากงานเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ซึ่งปัจจุบัน (วันที่17 กันยายน 2567) ยังไม่ได้แจ้งเข้ากับนายจ้างรายใหม่ มีระยะเวลาเกิน 60วัน ส่งผลให้การอนุญาตทำงานสิ้นสุดลง จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561
ร้านที่ 3. ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ พบแรงงานต่างด้าวกระทำความผิด 1 ราย กำลังทำงานขายของหน้าร้าน จึงขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและเอกสารการได้รับอนุญาตทำงานพบว่าอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 จากการตรวจสอบพบว่าชื่อนายจ้างที่ระบุในใบอนุญาตทำงานไม่ตรงกับชื่อนายจ้าง/สถานประกอบการที่เข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบประวัติการแจ้งเข้า – ออกทำงานผ่านระบบการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว พบนายจ้างเดิมได้แจ้งออกจากงานเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2567 ซึ่งปัจจุบัน (วันที่17 กันยายน 2567) ยังไม่ได้แจ้งเข้ากับนายจ้างรายใหม่ มีระยะเวลาเกิน 60 วัน ส่งผลให้การอนุญาตทำงานสิ้นสุดลง จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561
ร้านที่ 4. ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ พบแรงงานกระทำความผิด 1 ราย กำลังทำงานขายของหน้าร้านจึงขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและเอกสารการได้รับอนุญาตทำงานพบว่าอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อนุญาตให้ทำงานในตำแหน่งกรรมกร การกระทำดังกล่าวเป็นการทำงานในลักษณะขายของหน้าร้านเป็นงานห้ามคนต่างด้าวทำ โดยมีเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงแรงงานเรื่องกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้” ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561
จึงควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว ทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จึงควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว ทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
